เลือกหมอนเพื่อสุขภาพอย่างไรให้คุ้มค่า ไม่ปวดคอ ?
      ในปัจจุบันมีหมอนเพื่อสุขภาพมากมายหลากหลายยี่ห้อในท้องตลาด โดยที่แต่ละยี่ห้อก็ต่างเคลมถึงสรรพคุณนอนสบายบรรเทาอาการปวดคอกันทั้งนั้น แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่า หมอนเพื่อสุขภาพใบไหนที่เราควรจะเลือกใช้ในเมื่อสรรพคุณก็เหมือนๆกันหมดซะทุกเจ้า? ในวันนี้ทางเราจึงคัด 6 เทคนิคมาช่วยคุณลูกค้าเลือกหมอนเพื่อสุขภาพดังนี้ครับ
1. ปรับสูง ต่ำ ให้เข้ากับลักษณะการนอนของแต่ละท่านได้
      เนื่องจากแต่ละท่านจะมีสรีระที่ไม่เหมือนกันและท่านอนประจำตัวที่แตกต่างกัน ดังนั้นหมอนเพื่อสุขภาพที่ดีจึงควรที่จะมีความยืดหยุ่นสามารถใช้นอนได้หลากหลายรูปแบบ หรือควรที่จะปรับความสูง ต่ำได้นั่นเอง โดยตามทั่วไปแล้ว คนตัวใหญ่ก็จะต้องการหมอนใบใหญ่ และคนตัวเล็กก็จะต้องการนอนหมอนใบเล็ก ส่วนคนที่ชอบนอนตะแคงหรือคนที่ชอบนอนหงายแล้วใช้บ่าเกยบนหมอนจะต้องการหมอนที่มีความสูงกว่าคนที่ชอบนอนท่าอื่นๆ
2. มีความนุ่มแข็งที่เหมาะสม
      หมอนเพื่อสุขภาพที่ดีควรจะมีความนุ่มหรือแข็งที่พอดี หมอนที่แข็งเกินไปจะทำเจ็บศีรษะเนื่องจากการกระจายน้ำหนักของศีรษะบนหมอนไม่ดี ส่วนหมอนที่นุ่มหรือยุบเกินไปก็จะทำให้หมอนไม่รองรับ จนอาจทำให้เราปวดคอหลังตื่นนอนก็เป็นได้
3.ระบายอากาศดี ไม่ร้อน
      หมอนเพื่อสุขภาพที่ดีนั้นจะต้องไม่อมความร้อนหรือไม่ทำให้รู้สึกร้อนในขณะที่นอน ยิ่งเป็นประเทศไทยที่อากาศร้อนแล้วด้วยนั้น การลงทุนซื้อหมอนสุขภาพดีๆ ที่เย็นสบาย ระบายอากาศดีก็อาจจะเป็นทางเลือกคุ้มค่ากว่าจ่ายค่าไฟแพงๆก็เป็นไปได้ครับ
4.วัสดุที่ใช้ได้รับมาตรฐาน
      วัสดุที่ใช้ทำหมอนนั้นมีหลากหลายชนิดหลากหลายคุณภาพ หมอนเพื่อสุขภาพที่ดีนั้นจะผลิตมาจากวัสดุที่มีที่มาที่ไปและได้รับมาตรฐานสากลต่างๆ โดยมาตรฐานที่เห็นทั่วไปก็จะเป็นมาตรฐาน มอก, ISO, OEKO-TEX, ISPA, IAF,CNASและ SGS ถ้าหากหมอนเพื่อสุขภาพที่มีมาตรฐานเหล่านี้แล้วละก็เราก็สามารถมั่นใจได้ระดับนึงเลยว่าเป็นหมอนเพื่อสุขภาพที่ดี
5.มีรับประกัน ไม่ชอบก็คืนได้
      เนื่องจากแต่ละคนก็จะมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน บางคนชอบหมอนนุ่ม บางคนชอบหมอนแข็ง บางคนชอบต่ำ บางชอบสูง ถึงแม้ว่าตัวหมอนจะสามารถปรับระดับได้ และใช้วัสดุที่มีมาตรฐานแล้ว เราก็อาจจะยังไม่ชอบก็เป็นไปได้ มันจึงมีความเป็นไปได้ว่าหมอนเพื่อสุขภาพที่เราซื้อมานั้นเราอาจจะใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีใครอยากเสียเงินฟรีหรอกครับ ดังนั้นร้านที่มีรับประกันคืนได้ จึงเป็นอีกจุดนึงที่เราควรจะคำนึงถึง ทั้งนี้ กรุณาอ่านเงื่อนไขของแต่ละร้านให้ละเอียดครับ
6. ซื้อหมอนที่มีหน้าร้านให้ทดลองนอน
       สำหรับบางท่านที่ลังเลและอยากจะทดลองนอนจริงๆ ร้านที่มีหน้าร้านให้ทดลองนอนจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถทำให้เรามั่นใจได้ว่าหมอนใบนี้เหมาะกับเราหรือไม่นั้น เพราะทั้ง5ข้อที่กล่าวมาทั้งหมดอาจจะไม่สู้ไปนอนหรือสัมผัสสินค้าด้วยตนเองก็เป็นไปได้ครับ
      เป็นอย่างไรบ้างครับกับทั้ง 6 วิธีเลือกหมอนเพื่อสุขภาพ ที่ทางเราได้คัดสรรมา ทางเราหวังว่าบทความของเราจะสามารถช่วยคุณเลือกหมอนเพื่อสุขภาพที่ถูกใจคุณได้นะครับ และสุดท้ายนี้ทางเราขอให้คุณได้หมอนเพื่อสุขภาพที่ถูกใจคุณ และตื่นเช้ามารับวันใหม่แบบสนชื่นไม่ปวดคอครับผม
1. ปรับสูง ต่ำ ให้เข้ากับลักษณะการนอนของแต่ละท่านได้
      เนื่องจากแต่ละท่านจะมีสรีระที่ไม่เหมือนกันและท่านอนประจำตัวที่แตกต่างกัน ดังนั้นหมอนเพื่อสุขภาพที่ดีจึงควรที่จะมีความยืดหยุ่นสามารถใช้นอนได้หลากหลายรูปแบบ หรือควรที่จะปรับความสูง ต่ำได้นั่นเอง โดยตามทั่วไปแล้ว คนตัวใหญ่ก็จะต้องการหมอนใบใหญ่ และคนตัวเล็กก็จะต้องการนอนหมอนใบเล็ก ส่วนคนที่ชอบนอนตะแคงหรือคนที่ชอบนอนหงายแล้วใช้บ่าเกยบนหมอนจะต้องการหมอนที่มีความสูงกว่าคนที่ชอบนอนท่าอื่นๆ
2. มีความนุ่มแข็งที่เหมาะสม
      หมอนเพื่อสุขภาพที่ดีควรจะมีความนุ่มหรือแข็งที่พอดี หมอนที่แข็งเกินไปจะทำเจ็บศีรษะเนื่องจากการกระจายน้ำหนักของศีรษะบนหมอนไม่ดี ส่วนหมอนที่นุ่มหรือยุบเกินไปก็จะทำให้หมอนไม่รองรับ จนอาจทำให้เราปวดคอหลังตื่นนอนก็เป็นได้
3.ระบายอากาศดี ไม่ร้อน
      หมอนเพื่อสุขภาพที่ดีนั้นจะต้องไม่อมความร้อนหรือไม่ทำให้รู้สึกร้อนในขณะที่นอน ยิ่งเป็นประเทศไทยที่อากาศร้อนแล้วด้วยนั้น การลงทุนซื้อหมอนสุขภาพดีๆ ที่เย็นสบาย ระบายอากาศดีก็อาจจะเป็นทางเลือกคุ้มค่ากว่าจ่ายค่าไฟแพงๆก็เป็นไปได้ครับ
4.วัสดุที่ใช้ได้รับมาตรฐาน
      วัสดุที่ใช้ทำหมอนนั้นมีหลากหลายชนิดหลากหลายคุณภาพ หมอนเพื่อสุขภาพที่ดีนั้นจะผลิตมาจากวัสดุที่มีที่มาที่ไปและได้รับมาตรฐานสากลต่างๆ โดยมาตรฐานที่เห็นทั่วไปก็จะเป็นมาตรฐาน มอก, ISO, OEKO-TEX, ISPA, IAF,CNASและ SGS ถ้าหากหมอนเพื่อสุขภาพที่มีมาตรฐานเหล่านี้แล้วละก็เราก็สามารถมั่นใจได้ระดับนึงเลยว่าเป็นหมอนเพื่อสุขภาพที่ดี
5.มีรับประกัน ไม่ชอบก็คืนได้
      เนื่องจากแต่ละคนก็จะมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน บางคนชอบหมอนนุ่ม บางคนชอบหมอนแข็ง บางคนชอบต่ำ บางชอบสูง ถึงแม้ว่าตัวหมอนจะสามารถปรับระดับได้ และใช้วัสดุที่มีมาตรฐานแล้ว เราก็อาจจะยังไม่ชอบก็เป็นไปได้ มันจึงมีความเป็นไปได้ว่าหมอนเพื่อสุขภาพที่เราซื้อมานั้นเราอาจจะใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีใครอยากเสียเงินฟรีหรอกครับ ดังนั้นร้านที่มีรับประกันคืนได้ จึงเป็นอีกจุดนึงที่เราควรจะคำนึงถึง ทั้งนี้ กรุณาอ่านเงื่อนไขของแต่ละร้านให้ละเอียดครับ
6. ซื้อหมอนที่มีหน้าร้านให้ทดลองนอน
       สำหรับบางท่านที่ลังเลและอยากจะทดลองนอนจริงๆ ร้านที่มีหน้าร้านให้ทดลองนอนจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถทำให้เรามั่นใจได้ว่าหมอนใบนี้เหมาะกับเราหรือไม่นั้น เพราะทั้ง5ข้อที่กล่าวมาทั้งหมดอาจจะไม่สู้ไปนอนหรือสัมผัสสินค้าด้วยตนเองก็เป็นไปได้ครับ
      เป็นอย่างไรบ้างครับกับทั้ง 6 วิธีเลือกหมอนเพื่อสุขภาพ ที่ทางเราได้คัดสรรมา ทางเราหวังว่าบทความของเราจะสามารถช่วยคุณเลือกหมอนเพื่อสุขภาพที่ถูกใจคุณได้นะครับ และสุดท้ายนี้ทางเราขอให้คุณได้หมอนเพื่อสุขภาพที่ถูกใจคุณ และตื่นเช้ามารับวันใหม่แบบสนชื่นไม่ปวดคอครับผม