16 ม.ค.-28 ก.พ. ขอ e-tax เพื่อลดหย่อนภาษีได้

เลือกหมอนสุขภาพ ข้อดีของแต่ละวัสดุ? ถูก/แพงต่างกันยังไง?

เลือกหมอนเพื่อสุข ข้อดีของแต่ละวัสดุ

1.ข้อดี ข้อเสียของหมอนแต่ละประเภท วัสดุแต่ละชนิดต่างกันยังไง?

       วัสดุเป็นปัจจัยสำคัญที่เราต้องคำนึงในการเลือกหมอน แต่ละวัสดุก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ในวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย ของหมอน 5 ชนิดยอดฮิต 1.หมอนใยสังเคราะห์ 2.หมอนยางพารา 3.หมอนเมมโมรี่โฟม 4.หมอนขนสัตว์ 5.หมอนหลอดญี่ปุ่น/หมอนธัญพืช และเปรียบเทียบกันเลยชัดๆว่าหมอนประเภทเดียวกันมันถูกหรือแพงที่ตรงไหน

1.1 หมอนใยสังเคราะห์ (Polyester Pillow)

      อาจเรียกว่าหมอนขนห่าน/เป็ดเทียม, หมอนไมโครไฟเบอร์ เป็นหมอนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าเป็นหมอนแรกๆที่คนทั่วไปนึกถึงเลยก็ว่าได้ มีจุดเด่นในเรื่องของ ความนุ่ม สบาย ระบายอากาศดี แต่จะมีข้อด้อยในเรื่องของการรองรับที่จะแน่นสู้หมอนเมมโมรี่โฟม หรือ ยางพาราไม่ได้
หมอนใยสังเคราะห์
ข้อดี: นุ่มสบาย, กระจายตัวดี, ซักทำความสะอาดได้ง่าย, ดูแลรักษาง่าย, กันไรฝุ่น, ระบายอากาศดี, ราคาเข้าถึงง่าย
ข้อเสีย : อาจมีการยุบตัวได้บ้างเมื่อนอนไปซักพัก, ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนหมอนแน่น
ทำไมหมอนใยสังเคราะห์บางใบราคาหลักร้อย แต่บางใบราคาหลักพัน?
เปรียบเทียบราคาหมอนใยสังเคราะห์
      หมอนใยสังเคราะห์ราคาถูกหรือแพงสามารถจำแนกคร่าวๆได้โดยดูที่ 2 องค์ประกอบดังต่อไปนี้ a. ความละเอียดของเส้นใย และ b. จำนวนครั้งในการรีไซเคิล

      a. ความละเอียดของเส้นใย ยิ่งเส้นใยมีความละเอียดเท่าไหร่(หมอนราคาแพง) การกระจายตัวของเส้นใยภายในหมอนก็จะดีเท่านั้น และหมอนจะให้สัมผัสนุ่ม สบาย ไม่เป็นก้อน ส่วนหมอนที่ผลิตจากใยเส้นใหญ่หยาบ (หมอนราคาถูก) เวลานอนไปจะรู้สึกว่าเส้นใยจะกระจุกตัวอยู่ฝั่งใด ฝั่งนึง จนเป็นก้อนแข็ง จะรู้สึกว่าใยจะกระจายตัวไม่เท่ากันทั้งใบ
       b. จำนวนครั้งในการรีไซเคิล เส้นใยในหมอนจะทำหน้าที่เหมือนสปริงเส้นเล็กๆ ที่จะคอยเด้งรับน้ำหนักศีรษะของเราเอาไว้ ยิ่งเส้นใยมีจำนวนครั้งในการรีไซเคิลมากเท่าไหร่ความสามารถในการเด้งคืนรูปก็จะน้อยลงเท่านั้น หมอนที่ผลิตจากเส้นใยที่ถูกรีไซเคิลหลายครั้ง(หมอนราคาถูก) จะให้ความรู้สึกแข็ง ยุบตัวลงไปเลยโดยที่ไม่เด้งคืนตัว ทำให้ไม่รองรับ ส่วนหมอนที่ผลิตจากเส้นใยใหม่(หมอนราคาแพง) เวลานอนจะให้ความรู้สึกนุ่ม มีแรงเด้งคืนรูปทำให้สามารถรองรับได้ดีกว่า
       โดยในประเทศไทยนั้น โรงงานที่ผลิตใยสังเคราะห์ส่วนใหญ่จะใช้ใยรีไซเคิลเป็นซะส่วนมาก เราจึงเห็นว่าหมอนใยสังเคราะห์ยี่ห้อดีๆทั้งหลายนั้น เส้นใยจะถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งนั้นเลย
หมอนใยสังเคราะห์เหมาะกับผู้ที่ชอบนอนท่านอนแบบไหนบ้าง?
      หมอนใยสังเคราะห์เป็นหมอนที่เหมาะกับท่านอนที่หลากหลาย เนื่องจากปริมาณเส้นใยภายในหมอนสามารถเป็นตัวบ่งบอกถึงความนุ่ม ความแน่น หรือความสูงของหมอนได้
  • หมอนใยสังเคราะห์แบบนุ่ม (ใส่ปริมาณใยน้อย, หมอนเตี้ย) – เหมาะกับผู้ที่ชอบนอนคว่ำอย่างเดียว หรือนอนคว่ำสลับกับนอนหงาย
  • หมอนใยสังเคราะห์แบบปกติ (ใส่ปริมาณใยปานกลาง, หมอนปกติ) – เหมาะกับผู้ที่ชอบนอนหงายเพียงอย่างเดียว หรือ นอนหงายสลับกับนอนตะแคงบ้าง
  • หมอนใยสังเคราะห์แบบแน่น (ใส่ปริมาณใยมาก, หมอนสูง) – เหมาะกับผู้ที่ชอบทั้งนอนหงายและนอนตะแคงพอๆกัน หรือ นอนตะแคงเป็นหลักสลับกับนอนหงายบ้าง

1.2 หมอนยางพารา (Latex Pillow)

      เป็นหมอนมีจุดเด่นคือเป็นหมอนที่รองรับได้ดี มีคุณสมบัตินุ่ม แน่น ยืดหยุ่น และคืนตัวเร็ว โดยรวมแล้วจะคล้ายกับ memory foam แต่จะมีความแน่นกว่าเล็กน้อยและราคาถูกกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับหมอนใยสังเคราะห์แล้วจะมีความสามารถในการรองรับที่มากกว่า แต่ในเรื่องความนุ่มสบายก็จะสู้หมอนใยสังเคราะห์ไม่ได้
หมอนยางพารา
ข้อดี: วัสดุนุ่ม แน่น ยืดหยุ่น คืนตัวเร็ว, รองรับได้ดี, กันไรฝุ่น, มีหลากหลายรูปทรงให้เลือกง่าย
ข้อเสีย : อาจมีกลิ่นยางพารา, ระบายอากาศไม่ดี
ทำไมหมอนยางพาราบางใบราคาหลักร้อย แต่บางใบราคาหลักพัน?
      หมอนยางพาราจริงๆแล้วไม่ได้ผลิตจากยางพารา 100% หมอนยางพาราจะมีส่วนผสมของสารสังเคราะห์จำพวกโฟมหรือแป้งด้วย หมอนราคาแพงจะเป็นหมอนที่มีอัตราส่วนของยางพารามาก เนื่องจากยางพาราเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักมากกว่าสารเคมีพวกโฟมหรือแป้ง ดังนั้นหมอนยางพาราคุณภาพสูง(มีอัตราส่วนยางพาราสูง)จะมีน้ำหนักที่มากกว่าหมอนยางพาราคุณภาพต่ำ(มีอัตราส่วนยางพาราต่ำ) รวมถึงมีความนุ่ม แน่น เด้ง ยืดหยุ่นที่มากกว่าด้วย
หมอนยางพารามีกี่แบบเหมาะกับผู้ที่ชอบนอนท่าไหนบ้าง?
      หมอนยางพาราโดยทั่วไปแล้วจะมีทั้งหมด 3 รูปทรงใหญ่ๆ แต่ละรูปทรงก็จะเหมาะกับท่านอนที่ไม่เหมือนกัน โดยรูปทรงContour และ รูปทรงHeart ก็จะมี option ให้เลือกว่าจะเอาแบบเรียบ หรือว่าแบบมีปุ่ม(Knobby) ซึ่งแบบปุ่ม(Knobby) จะช่วยนวดศีรษะ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
  • หมอนยางพารา ทรงContour (ทรง 2 ลอน) – เป็นรูปทรงหมอนยางพาราที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจะมีจุดเด่นคือมีลอนที่ไม่เท่ากัน 2 ฝั่ง โดย สามารถเลือกนอนได้ 2 ฝั่ง
  เลือกนอนฝั่งลอนเตี้ย - เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนหงายเป็นหลัก สลับกับนอนตะแคงบ้าง
  เลือกนอนฝั่งลอนสูง - เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนตะแคงเป็นหลัก สลับกับนอนหงายบ้าง
หมอนยางพาราContour
  • หมอนยางพารา ทรงHeart (ทรงหัวใจ) - จะมีส่วนโค้งเข้ามาที่ตรงกลางหมอน ซึ่งมีไว้สำหรับผู้ที่ชอบนอนหงายแล้วให้ตัวหมอนแนบชิดรองรับกับบ่าพอดี – เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนหงายเป็นหลักโดยสลับกับนอนตะแคงบ้าง
หมอนยางพาราHeart
  • หมอนยางพารา ทรงStandard (ทรงมาตรฐาน) - เป็นรูปทรงหมอนยางพาราธรรมดาที่ไม่ได้มีส่วนโค้งใดๆ ในบรรดารูปทรงทั้งหมด รูปทรงนี้จะเป็นทรงหมอนที่สูงที่สุด – เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนตะแคงอย่างเดียวหรือผู้ที่ชอบนอนหมอนสูงฝั่ง
หมอนยางพาราStandard

1.3 หมอนเมมโมรี่โฟม (Memory Foam Pillow)

      เป็นหมอนที่มีจุดเด่นในเรื่องความนุ่ม ยืดหยุ่น แต่ยังคงคุณสมบัติของการรองรับที่ดี เมมโมรี่โฟมจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวคือจะค่อยๆคืนรูปเดิมอย่างช้าๆเมื่อไม่มีแรงกดทับ เมื่อเทียบกับหมอนยางพารา หมอนเมมโมรี่โฟมจะมีความสามารถในการรองรับที่น้อยกว่า แต่จะมีความนุ่ม ยืดหยุ่น กระจายแรงกดทับที่มากกว่า เมื่อเทียบกับหมอนใยสังเคราะห์แล้วจะมีความสามารถในการรองรับที่มากกว่า แต่ในเรื่องความนุ่มสบายและระบายอากาศก็จะสู้หมอนใยสังเคราะห์ไม่ได้
หมอนเมมโมรี่โฟม
ข้อดี: วัสดุนุ่ม แน่น ยืดหยุ่น, กระจายแรงกดทับได้ดี, กันไรฝุ่น, มีรูปทรงให้เลือกพอประมาณ
ข้อเสีย : อาจมีกลิ่นสารสังเคราะห์, ระบายอากาศไม่ดี, ราคาค่อนข้างสูง
ทำไมหมอนเมมโมรี่โฟมบางใบราคาหลักร้อย แต่บางใบราคาหลักพัน?
      คุณสมบัติของเมมโมรี่โฟมจะแตกต่างจากหมอนโฟมธรรมดา(ฟองน้ำ)ตรงที่ โฟมธรรมดาจะมีความยืดหยุ่นที่น้อยกว่า และจะไม่มีคุณสมบัติค่อยๆคืนตัวแบบช้าๆ ส่วนเมมโมรีโฟมนั้นจะนุ่ม ยืดหยุ่น และจะค่อยๆคืนตัวอย่างช้าๆ ซึ่งคุณสมบัติพวกนี้จะพบได้ในสารสังเคราะห์ที่มีน้ำหนักเยอะ ดังนั้นหากเปรียบเทียบกันระหว่างหมอนเมมโมรีโฟมคุณภาพสูงและหมอนเมมโมรีโฟมคุณภาพต่ำ เราจะเห็นได้ว่าหมอนเมมโมรีโฟมคุณภาพสูงจะมีน้ำหนักที่มากกว่า รวมถึงมีคุณสมบัตินุ่ม ยืดหยุ่น และการกระจายแรงกดทับที่ดีกว่า
หมอนเมมโมรี่โฟมมีกี่แบบเหมาะกับผู้ที่ชอบนอนท่าไหนบ้าง?
      หมอนเมมโมรี่โฟมจะมีรูปทรงที่คล้ายๆกับยางพารา แต่จะไม่มีรูปทรงแบบมีปุ่ม(Knobby) ให้เลือก โดยทั่วไปแล้วจะมีทั้งหมด 3 รูปทรงใหญ่ๆ ซึ่งแต่ละรูปทรงก็จะเหมาะกับท่านอนที่ไม่เหมือนกัน
  • หมอนเมมโมรี่โฟมทรง contour (ทรง 2 ลอน) – เป็นรูปทรงหมอนเมมโมรี่โฟมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจะมีจุดเด่นคือมีลอนที่ไม่เท่ากัน 2 ฝั่ง โดย สามารถเลือกนอนได้ 2 ฝั่ง คือ
  เลือกนอนฝั่งลอนเตี้ย - เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนหงายเป็นหลัก สลับกับนอนตะแคงบ้าง
  เลือกนอนฝั่งลอนสูง - เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนตะแคงเป็นหลัก สลับกับนอนหงายบ้าง
หมอนเมมโมรี่โฟมContour
  • หมอนเมมโมรี่โฟมทรง Standard (ทรงมาตรฐาน) – เป็นรูปทรงหมอนเมมโมรี่โฟม ทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา ในบรรดารูปทรงทั้งหมด รูปทรงนี้จะเป็นทรงหมอนที่สูงที่สุด – เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนตะแคงเป็นหลักสลับกับนอนหงายบ้าง
หมอนเมมโมรี่โฟมทรงStandard
  • หมอนเมมโมรี่โฟมทรง Butterfly (ทรงผีเสื้อ) – เป็นรูปทรงหมอนเมมโมรี่โฟมทรงใหม่ที่ค้อนข้างแตกต่างจากทรงอื่นๆ โดยตรงกลางของหมอนจะเว้าเข้าไปสำหรับนอนหงาย – เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทั้งนอนหงายและนอนตะแคงพอๆกัน
หมอนเมมโมรี่โฟมผีเสื้อ

1.4 หมอนขนสัตว์ (Down & Feather Pillow)

      อาจเรียกว่าหมอนขนเป็ดหรือขนห่าน จะมีคุณสมบัติคล้ายกันกับหมอนใยสังเคราะห์คือ นุ่ม สบาย ระบายอากาศดี แต่จะยุบตัวช้ากว่าทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวกว่า แต่ก็จะแลกมาด้วยการดูแลรักษาที่ยากและราคาที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับหมอนเมมโมรี่โฟมและหมอนยางพารานั้น หมอนขนสัตว์ก็จะนุ่มสบายกว่า โดยที่มีความสามารถในการรองรับที่น้อยกว่า
หมอนขนสัตว์
ข้อดี: นุ่มสบาย, กระจายตัวดี, ระบายอากาศดี
ข้อเสีย : ไม่กันไรฝุ่น, ซักทำความสะอาดไม่ได้, ไม่เหมาะสำหรับผู้ชอบนอนหมอนแน่น, ราคาค่อนข้างสูง
ทำไมหมอนใยสังเคราะห์บางใบราคาหลักร้อย แต่บางใบราคาหลักพัน?
เปรียบเทียบราคาหมอนขนสัตว์
      หมอนขนสัตว์สามารถจำแนกคร่าวๆได้โดยดูที่ 2 องค์ประกอบดังต่อไปนี้ a. สัตว์ที่เอาขนมาทำ และ b. ชนิดของขนที่เอามาทำ

       a. สัตว์ที่เอาขนมาทำ ขนของสัตว์ที่จะเอามาทำหมอนนั้นโดยทั่วไปแล้วจะมีแค่ 2 ชนิดใหญ่ๆซึ่งก็คือขนเป็ดและขนห่าน ห่านซึ่งตัวใหญ่กว่าเป็ดจึงทำให้ขนห่านนั้นมีคุณสมบัติเป็นก้อนนุ่มและฟูมากกว่า และทำให้หมอนที่ผลิตจากขนห่านจะมีความนุ่ม ฟูและรองรับได้ดีกว่า โดยก็จะมีราคาที่สูงกว่าเช่นกัน โดยทั้งนี้ทั้งนั้นคุณภาพของหมอนก็จะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของเป็ดหรือห่านด้วยยิ่งเป็นสายพันธุ์ที่อยู่เมืองหนาวมากขนก็จะมีความนุ่ม ฟูและมีราคาที่สูงยิ่งๆขึ้นไป
       b. จำนวนครั้งในการรีไซเคิล ขนที่นิยมเอามาทำนั้นจะมี 2 ชนิดใหญ่ๆซึ่งก็คือ ขนปีก(Feather) และ ขนท้อง/อก(Down) ส่วนขนท้อง/อกนั้นจะมีความนุ่ม ฟู และระบายอากาศได้ดีกว่าเนื่องจากจะไม่มีก้านขนซึ่งมีความแข็งติดมาด้วย จึงทำให้หมอนที่ผลิตมาจากขนท้อง/ขนอก จะมีความนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี และรองรับได้ดีกว่า โดยก็จะมีราคาที่สูงกว่าเช่นกัน

หมอนขนสัตว์เหมาะกับผู้ที่ชอบนอนท่านอนแบบไหนบ้าง?
      หมอนขนสัตว์จะเหมือนหมอนใยสังเคราะห์ตรงที่ปริมาณเส้นใยภายในหมอนสามารถเป็นตัวบ่งบอกถึงความนุ่ม ความแน่น หรือความสูงของหมอนได้ จึงเหมาะกับท่านอนที่หลากหลาย
  • หมอนขนสัตว์แบบนุ่ม (ใส่ปริมาณใยน้อย, หมอนเตี้ย) – เหมาะกับผู้ที่ชอบนอนคว่ำอย่างเดียว หรือนอนคว่ำสลับกับนอนหงาย
  • หมอนขนสัตว์แบบปกติ (ใส่ปริมาณใยปานกลาง, หมอนปกติ) – เหมาะกับผู้ที่ชอบนอนหงายเพียงอย่างเดียว หรือ นอนหงายสลับกับนอนตะแคงบ้าง
  • หมอนขนสัตว์แบบแน่น (ใส่ปริมาณใยมาก, หมอนสูง) – เหมาะกับผู้ที่ชอบทั้งนอนหงายและนอนตะแคงพอๆกัน หรือ นอนตะแคงเป็นหลักสลับกับนอนหงายบ้าง

1.5 หมอนหลอดญี่ปุ่น/หมอนธัญพืช (Japanese/ Buckwheat Pillow)

      เป็นหมอนที่มีจุดเด่นในเรื่องของการกระจายน้ำหนักโดยที่ไม่ยุบตัว และสามารถคงรูปทรงได้ดีตามรูปทรงภายในของหมอน วัสดุที่ใช้ทำหมอนประเภทนี้จะเป็นวัสดุเม็ดเล็กๆขนาดประมาณ 5 มม. ที่จะกระจายตัวออกตามส่วนโค้งของศีรษะและต้นคอแทนที่จะยุบตัวลงไป เมื่อเปรียบเทียบกับหมอนประเภทอื่นๆแล้วหมอนชนิดนี้จะมีความสามารถในการรองรับที่ดีที่สุด
หมอนญี่ปุ่น
ข้อดี: รองรับได้ดี, กระจายตัวตามสรีระได้ดีโดยที่ไม่ยุบตัวลงไป, คงรูปทรงได้ดีตามรูปทรงหมอน, กันไรฝุ่น
ข้อเสีย : ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนนุ่ม, ราคาสูง
ทำไมหมอนหมอนหลอดญี่ปุ่น/ธัญพืชบางใบราคาหลักร้อย แต่บางใบราคาหลักพัน?
      หมอนเม็ดวัสดุสามารถจำแนกได้คร่าวๆตามนี้ a. ชนิดของวัสดุที่ใส่ภายในหมอน และ b. รูปทรงของหมอน
หมอนธัญพืช
       a. ชนิดของวัสดุที่ใส่ภายในหมอน หมอนธัญพืชเป็นหมอนที่ผลิตจากเปลือก Buckwheat(หรือเรียกว่าเปลือกเมล็ดโซบะ) เนื่องจากเป็นวัสดุธรรมชาติทำให้ราคาจะไม่สูงหรือแพงจนเกินไป ส่วนหมอนหลอดญี่ปุ่นนั้น วัสดุที่ใช้ผลิตหมอนจะเป็นวัสดุประเภทพลาสติกซึ่งจะมีหลากหลายประเภท จะมีทั้งที่เป็นพลาสติกแข็งที่ให้ตัวได้คล้ายหลอด หรือเป็นพลาสติกนุ่มๆคล้ายซิลิโคน โดยจะมีให้เลือกหลากหลายรูปทรงและความนุ่ม ขึ้นอยู่กับท่านอนและความชอบของผู้นอน ทำให้ราคาค่อนข้างที่จะสูงเมื่อเปรียบเทียบกับหมอนประเภทอื่นๆ
รูปทรงหมอนญี่ปุ่น
       b. รูปทรงของหมอน รูปทรงของหมอนธัญพืชจะมีรูปทรงเดียวคือ 4เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนรูปทรงของหมอนญี่ปุ่นจะมีหลากหลายรูปทรง มีทั้งแบบที่เป็น4เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา และแบบที่แบ่งเป็นหลายช่องในใบเดียว โดยหมอนที่แบ่งเป็นหลายช่องนั้นจะมีข้อดีคือสามารถปรับรูปทรงของหมอนได้หลากหลายเพื่อให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้ (เรียกว่าหมอนตามสรีระ) หมอนประเภทนี้จะเป็นหมอนสมัยใหม่ที่พัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาการนอน และอาการปวด คอ บ่าไหล่โดยเฉพาะ แต่ก็จะมีข้อเสียคือเรื่องรูปทรงหมอนที่ซับซ้อนทำให้มีราคาที่ค่อนข้างแพง และต้องไปวัดสรีระและทดลองนอนที่ร้านเท่านั้น

หมอนหลอดญี่ปุ่น/ ธัญพืชเหมาะกับผู้ที่ชอบนอนท่านอนแบบไหนบ้าง?
  • หมอนธัญพืช วัสดุภายในหมอนผลิตจากเมล็ดธัญพืชที่ค่อนข้างแข็งเม็ดเล็กๆ สามารถกระจายตัวได้ดีโดยที่ไม่ยุบตัว เหมาะกับผู้ที่ชอบนอนหงายเป็นหลักสลับกับนอนตะแคงบ้าง
  • หมอนหลอดญี่ปุ่น วัสดุภายในหมอนมีให้เลือกหลากหลายรูปทรงแบบ อีกทั้งยังมีรูปทรงที่หลากหลายมากที่สุดเมื่อเทียบกับหมอนชนิดอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นหมอนสมัยใหม่ที่มีลูกเล่นค่อนข้างเยอะทำให้หมอนประเภทนี้สามารถปรับให้เข้าได้กับท่านอนได้หลากหลาย – เหมาะกับทุกท่านอน (ขึ้นอยู่กับรูปทรงของหมอนและปริมาณวัสดุภายในหมอน)

2. เลือกหมอนที่มีความสูงพอดีกับสรีระและท่านอน

       เนื่องจากแต่ละท่านจะมีสรีระที่ไม่เหมือนกันและมีท่านอนที่แตกต่างกันไป ความสูงของหมอนเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคนจึงต่างกัน คนตัวใหญ่ก็จะต้องการหมอนใบใหญ่ คนตัวเล็กก็จะต้องการนอนหมอนใบเล็ก หากจะดูจากท่านอนนั้น คนนอนคว่ำจะต้องการหมอนที่เตี้ย คนนอนหงายจะต้องการหมอนสูงปานกลาง ส่วนคนที่ชอบนอนตะแคงจะต้องการหมอนที่สูง
      จะเห็นว่าแต่ละคนก็จะต้องการหมอนที่มีความสูงไม่เหมือนกัน ในวันนี้เราจะมีวิธีสังเกตง่ายๆว่าหมอนที่คุณนอนอยู่นั้นมีความสูงเหมาะกับคุณหรือไม่โดยสามารถดูได้ตามรูปด้านล่าง
ระดับการนอนที่ถูกต้อง
      ท่านอนที่ถูกต้องคือท่านอนที่องศาคอ/องศาหน้าจะไม่เอียงขึ้นหรือเอียงลงมากเกินไป เราสามารถให้คนข้างๆช่วยสังเกตได้ว่าความสูงของหมอนที่ท่านใช้อยู่นั้น เหมาะสมกับท่านมั้ย โดยหากหมอนต่ำเกินไป หรือสูงเกินไป อาจทำให้ก็เรามีปัญหาเกี่ยวกับการนอนเกิดขึ้นกับเราได้ เช่น นอนไม่สบาย, มีอาการปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่, แขนชา, กรนเสียงดัง หรือ ตื่นกลางดึกบ่อยๆ

       เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 2 หัวข้อแน่นๆเกี่ยวกับวิธีการเลือกหมอนเพื่อสุขภาพสำหรับคุณ เราหวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยคุณเลือกหมอนได้ไม่มากก็น้อย ใครที่กำลังหาหมอนใยสังเคราะห์คุณภาพดี อยู่นั้นสามารถเข้ามาดูได้ที่หน้า สินค้า ของเราได้เลย หมอนไอริของเราใช้เส้นใยคุณภาพจากเกาหลีและที่สำคัญสามารถปรับเติมเส้นใยเข้าออกเพื่อปรับความนุ่ม และความสูงของหมอนตามท่านอนของคุณได้อีกด้วย สุดท้ายนี้ทางเราขอให้คุณได้หมอนเพื่อสุขภาพที่ถูกใจคุณ และตื่นเช้ามารับวันใหม่แบบสดชื่นสุขภาพดีกันครับ
callpic

โทร 064-586-4441

วันจันทร์ - วันอาทิตย์ 10.30 - 20:00 น.

chatpic

ติดต่อเรา

ติดต่อสั่งซื้อสินค้าหรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ไม่พอใจยินดีคืนเงิน

การันตีความพึงพอใจ

Main Page